ระบบ WMS กับกลยุทธ์ลดต้นทุนโลจิสติกส์สำหรับ SME อย่างยั่งยืน

ระบบ WMS กับกลยุทธ์ลดต้นทุนโลจิสติกส์สำหรับ SME อย่างยั่งยืน

ระบบ WMS กับกลยุทธ์ลดต้นทุนโลจิสติกส์สำหรับ SME อย่างยั่งยืน

ในสมรภูมิธุรกิจที่มีการแข่งขันสูงเช่นปัจจุบัน ผู้ประกอบการธุรกิจ SME และ Startup ต่างต้องเผชิญกับความท้าทายรอบด้าน โดยเฉพาะอย่างยิ่ง “ต้นทุนโลจิสติกส์” ที่มักเป็นค่าใช้จ่ายก้อนโตที่มองข้ามไม่ได้ การบริหารจัดการคลังสินค้าและระบบขนส่งที่ขาดประสิทธิภาพ ไม่เพียงแต่กัดกินผลกำไร แต่ยังส่งผลกระทบต่อความพึงพอใจของลูกค้าและความสามารถในการเติบโตของธุรกิจในระยะยาว คำถามสำคัญคือ ท่านกำลังมองหาโซลูชันที่จะเข้ามาปฏิวัติการจัดการคลังสินค้า ช่วยลดต้นทุนได้อย่างเห็นผล และสร้างความยั่งยืนให้กับธุรกิจของท่านอยู่ใช่หรือไม่?

ข่าวดีคือ เทคโนโลยีมีคำตอบให้ท่านแล้ว! ระบบ WMS หรือ Warehouse Management System ไม่ใช่เรื่องไกลตัวหรือซับซ้อนเกินกว่าที่ SME และ Startup จะเข้าถึงอีกต่อไป cnetthailand ในฐานะผู้นำด้านการให้บริการซอฟต์แวร์ระบบ WMS และโปรแกรมระบบ WMS แบบเต็มรูปแบบพร้อมอุปกรณ์ ด้วยประสบการณ์เชี่ยวชาญยาวนานกว่า 30 ปี และครองยอดขายอันดับ 1 ในประเทศญี่ปุ่นต่อเนื่องถึง 11 ปี พร้อมแล้วที่จะเป็นเพื่อนคู่คิดและนำทางให้ธุรกิจของท่านก้าวข้ามความท้าทายด้านโลจิสติกส์ สู่การลดต้นทุนได้มากกว่า 30% อย่างยั่งยืน

ระบบ WMS ลดค่าใช้จ่ายในการจัดการคลังสินค้าได้อย่างไร

ปัญหาคาใจของ SME กับการจัดการคลังสินค้าแบบเดิมๆ

  • สต็อกสินค้าไม่ตรงกับความเป็นจริง สินค้ามีแต่หาไม่เจอ สินค้าขาดแต่ไม่รู้ตัว หรือสินค้าเกินจนทุนจม เป็นปัญหาคลาสสิกที่ทำให้เสียโอกาสในการขายและสร้างความปวดหัวไม่รู้จบ
  • การค้นหาและหยิบสินค้าที่ล่าช้า พนักงานต้องเสียเวลาเดินหาของทั่วคลังสินค้า ทำให้กระบวนการจัดส่งล่าช้า ลูกค้าไม่พอใจ และยังเป็นการใช้ทรัพยากรบุคคลที่ไม่คุ้มค่า
  • พื้นที่คลังสินค้าไม่ถูกใช้อย่างเต็มประสิทธิภาพ การจัดวางสินค้าไม่เป็นระบบ ทำให้เปลืองพื้นที่โดยใช่เหตุ และอาจต้องเสียค่าเช่าพื้นที่คลังสินค้าเพิ่มโดยไม่จำเป็น
  • ความผิดพลาดจาก Human Error การจดบันทึกด้วยมือ การคีย์ข้อมูลซ้ำซ้อน หรือการสื่อสารที่คลาดเคลื่อน นำไปสู่ความผิดพลาดในการรับสินค้า จัดเก็บ และจัดส่งสินค้า สร้างความเสียหายทั้งเวลาและค่าใช้จ่าย
  • ต้นทุนการดำเนินงานที่สูงลิ่ว ค่าแรงพนักงานที่เพิ่มขึ้น ค่าใช้จ่ายในการแก้ไขข้อผิดพลาด ค่าเสียโอกาสจากสินค้าเสียหายหรือหมดอายุ ทั้งหมดนี้ล้วนเป็นต้นทุนที่กัดกินผลกำไร
  • ขาดข้อมูลในการตัดสินใจ ไม่สามารถมองเห็นภาพรวมของคลังสินค้าแบบเรียลไทม์ ทำให้การวางแผนและการตัดสินใจทางธุรกิจขาดความแม่นยำ

หากคำตอบคือ “ใช่” แม้เพียงข้อเดียว นั่นหมายความว่าถึงเวลาแล้วที่คุณจะต้องพิจารณาการนำระบบ WMS เข้ามาช่วยยกระดับการจัดการคลังสินค้าของคุณอย่างจริงจัง

ถอดรหัสระบบ WMS เพื่อนคู่คิดของคลังสินค้าอัจฉริยะ

ก่อนจะเจาะลึกถึงกลยุทธ์การลดต้นทุน เรามาทำความเข้าใจกันก่อนว่าระบบ WMS (Warehouse Management System) คืออะไร? พูดง่ายๆ ก็คือซอฟต์แวร์ระบบ WMS หรือ โปรแกรมระบบ WMS เปรียบเสมือน “สมอง” อัจฉริยะที่เข้ามาควบคุมและบริหารจัดการทุกกิจกรรมภายในคลังสินค้าของท่าน ตั้งแต่การรับสินค้าเข้า (Inbound) การจัดเก็บ (Putaway) การจัดการสินค้าคงคลัง (Inventory Management) การหยิบสินค้าตามคำสั่งซื้อ (Picking) การบรรจุหีบห่อ (Packing) ไปจนถึงการจัดส่งสินค้า (Outbound) และการติดตามสถานะแบบเรียลไทม์

ระบบ WMS ที่ดีจะช่วยให้การทำงานในคลังสินค้าเป็นระบบระเบียบ มีความถูกต้องแม่นยำ ลดความผิดพลาดจากการทำงานด้วยมนุษย์ (Human Error) และที่สำคัญคือ ช่วยให้ท่านมองเห็นภาพรวมของสินค้าคงคลังทั้งหมดได้อย่างชัดเจน นำไปสู่การตัดสินใจทางธุรกิจที่เฉียบคมยิ่งขึ้น

กลยุทธ์การนำเข้าส่งออกที่มีประสิทธิภาพด้วยระบบ WMS

SME และ Startup กับมรสุม “ต้นทุนโลจิสติกส์” ที่มองไม่เห็น

ผู้ประกอบการ SME และ Startup หลายรายมักเผชิญกับปัญหาปวดหัวในคลังสินค้าโดยไม่รู้ตัว หรืออาจรู้แต่ยังหาทางออกที่เหมาะสมไม่ได้ ลองสำรวจดูว่าธุรกิจของท่านกำลังประสบปัญหาเหล่านี้อยู่หรือไม่

  • สต็อกสินค้าไม่ตรง จำนวนสินค้าในระบบไม่ตรงกับสินค้าที่มีอยู่จริง ทำให้เสียโอกาสในการขาย หรือสั่งซื้อสินค้าซ้ำซ้อนโดยไม่จำเป็น
  • หาสินค้าไม่เจอ เสียเวลานานในการค้นหาสินค้าในคลังที่กว้างใหญ่หรือจัดเก็บไม่เป็นระบบ
  • พื้นที่จัดเก็บไม่เพียงพอ สินค้าล้นคลัง จัดเก็บไม่เป็นระเบียบ ทำให้ต้องเสียค่าเช่าพื้นที่เพิ่มโดยใช่เหตุ
  • ข้อผิดพลาดในการหยิบและจัดส่ง หยิบสินค้าผิดรุ่น ผิดจำนวน หรือส่งสินค้าให้ลูกค้าผิดคน นำไปสู่ต้นทุนการแก้ไขปัญหาและทำลายความเชื่อมั่นของลูกค้า
  • การทำงานที่ซ้ำซ้อนและใช้แรงงานคนมากเกินไป พนักงานเสียเวลากับงานเอกสาร การตรวจสอบสินค้าด้วยมือ หรือการเดินหาของในคลัง ซึ่งล้วนเป็นต้นทุนค่าแรงที่สูงขึ้น
  • ขาดข้อมูลในการตัดสินใจ ไม่สามารถวิเคราะห์ข้อมูลการเคลื่อนไหวของสินค้าได้อย่างมีประสิทธิภาพ ทำให้วางแผนการสั่งซื้อหรือจัดการสต็อกได้ไม่ดีเท่าที่ควร

ปัญหาเหล่านี้ไม่เพียงแต่สร้างความหงุดหงิดใจในการทำงาน แต่ยังส่งผลกระทบโดยตรงต่อ “ต้นทุนโลจิสติกส์” ทั้งที่มองเห็นและมองไม่เห็น เช่น ต้นทุนการเสียโอกาส ต้นทุนการแก้ไขข้อผิดพลาด และต้นทุนค่าแรงที่สูงเกินความจำเป็น ซึ่งอาจสูงถึงตัวเลขที่คุณคาดไม่ถึง

ปลดล็อกศักยภาพ ระบบ WMS กับกลยุทธ์ลดต้นทุนโลจิสติกส์มากกว่า 30%

การนำระบบคลังสินค้า WMS เข้ามาใช้งานอย่างถูกวิธีและเหมาะสมกับขนาดของธุรกิจ สามารถเป็นเครื่องมือทรงพลังที่ช่วยให้ SME และ Startup ลดต้นทุนโลจิสติกส์ได้อย่างมีนัยสำคัญ โดย cnetthailand ได้เห็นผลลัพธ์จากการใช้งานจริงของลูกค้าจำนวนมากว่าสามารถลดต้นทุนในส่วนนี้ได้มากกว่า 30% แล้วระบบ WMS ทำได้อย่างไร?

  1. เพิ่มประสิทธิภาพการใช้พื้นที่คลังสินค้า (Space Optimization)
  • ลดความสูญเปล่า ระบบคลังสินค้าอัจฉริยะ WMS ช่วยในการวางแผนการจัดเก็บสินค้าอย่างชาญฉลาด (Strategic Putaway) โดยแนะนำตำแหน่งที่เหมาะสมตามขนาด น้ำหนัก และความถี่ในการหยิบสินค้า ทำให้ใช้พื้นที่ทุกตารางนิ้วได้อย่างคุ้มค่า ลดความจำเป็นในการขยายพื้นที่หรือเช่าคลังสินค้าเพิ่ม
  • การจัดเรียงที่เป็นระบบ ช่วยให้การจัดเรียงสินค้ามีระเบียบ ค้นหาง่าย ลดพื้นที่ทางเดินที่ไม่จำเป็น
  1. ลดความผิดพลาดในการทำงาน (Error Reduction)
  • ความแม่นยำที่เหนือกว่า การใช้ระบบบาร์โค้ด หรือ QR Code ร่วมกับเครื่องอ่านข้อมูลแบบพกพา (Handheld Scanner) ช่วยลดความผิดพลาดในการรับสินค้า การจัดเก็บ การหยิบ และการตรวจสอบสินค้าได้อย่างมาก จากที่เคยผิดพลาด 5-10% อาจลดลงเหลือต่ำกว่า 1%
  • ลดต้นทุนการแก้ไข เมื่อความผิดพลาดลดลง ต้นทุนที่เกิดจากการส่งคืนสินค้า การจัดส่งใหม่ หรือการชดเชยความเสียหายให้ลูกค้าก็ลดลงตามไปด้วย
ทำไมธุรกิจโลจิสติกส์ 3PL ต้องมีระบบ WMS
  1. เพิ่มประสิทธิภาพการทำงานของพนักงาน (Labor Productivity Improvement)
  • ลดการทำงานซ้ำซ้อน ระบบจัดการคลังสินค้า WMS ช่วยลดขั้นตอนงานเอกสารที่ยุ่งยาก เปลี่ยนเป็นการทำงานผ่านระบบดิจิทัลที่รวดเร็วและตรวจสอบได้
  • เส้นทางการทำงานที่สั้นที่สุด (Optimized Picking Paths) ระบบ WMS สามารถวางแผนเส้นทางการหยิบสินค้าที่สั้นและมีประสิทธิภาพที่สุดให้กับพนักงาน ลดระยะเวลาการเดินในคลัง ทำให้พนักงานหนึ่งคนสามารถทำงานได้มากขึ้นในเวลาเท่าเดิม
  • ลดการพึ่งพาความจำของบุคคล ข้อมูลทุกอย่างอยู่ในโปรแกรมระบบคลังสินค้า WMS ทำให้พนักงานใหม่สามารถเรียนรู้งานได้เร็วขึ้น และลดปัญหาเมื่อมีการเปลี่ยนหรือขาดบุคลากร
  1. การบริหารจัดการสินค้าคงคลังที่แม่นยำ (Accurate Inventory Management)
  • ข้อมูลเรียลไทม์ ทราบจำนวนสินค้าคงคลังที่แท้จริงแบบเรียลไทม์ ทำให้สามารถวางแผนการสั่งซื้อได้อย่างแม่นยำ ลดปัญหาสินค้าขาดสต็อก (Stock Out) หรือสินค้าล้นสต็อก (Overstock)
  • ลดต้นทุนการถือครองสินค้า (Reduced Holding Costs) การมีสินค้าคงคลังในระดับที่เหมาะสมช่วยลดต้นทุนจมที่เกิดจากการเก็บรักษาสินค้าที่มากเกินไป เช่น ค่าเช่าพื้นที่ ค่าประกัน และความเสี่ยงที่สินค้าจะเสื่อมสภาพหรือล้าสมัย
  • การหมุนเวียนสินค้าที่ดีขึ้น (Improved Stock Rotation) ระบบ WMS สามารถจัดการการหมุนเวียนสินค้าแบบ FIFO (First-In, First-Out) หรือ FEFO (First-Expired, First-Out) ได้อย่างมีประสิทธิภาพ ลดปัญหาสินค้าหมดอายุก่อนจำหน่าย
  1. การตัดสินใจจากข้อมูลจริง (Data-Driven Decision Making)
  • รายงานและข้อมูลเชิงลึก ระบบ WMS จัดเก็บข้อมูลการดำเนินงานทั้งหมด ทำให้สามารถดึงรายงานออกมาวิเคราะห์เพื่อหาจุดที่ต้องปรับปรุง หรือมองเห็นแนวโน้มความต้องการของสินค้าแต่ละชนิด เพื่อการวางแผนที่ดีขึ้น
  • การวางแผนทรัพยากร ข้อมูลจากระบบช่วยให้วางแผนการใช้กำลังคน อุปกรณ์ และพื้นที่ได้อย่างเหมาะสม

การผสานประสิทธิภาพในด้านต่างๆ เหล่านี้เข้าด้วยกัน จึงไม่ใช่เรื่องเกินจริงที่ระบบ WMS จะสามารถช่วยลดต้นทุนโลจิสติกส์โดยรวมของ SME และ Startup ได้มากกว่า 30% ซึ่งตัวเลขนี้อาจแตกต่างกันไปในแต่ละธุรกิจ แต่แนวโน้มที่ชัดเจนคือการประหยัดต้นทุนในระยะยาว

ก้าวไปอีกขั้น ระบบ WMS เพื่อการเติบโตอย่างยั่งยืน ไม่ใช่แค่การลดต้นทุนชั่วคราว

สิ่งที่ cnetthailand ให้ความสำคัญ ไม่ใช่เพียงแค่การลดต้นทุนในระยะสั้น แต่คือการสร้างรากฐานที่แข็งแกร่งเพื่อการเติบโตอย่างยั่งยืนของธุรกิจ SME และ Startup ซอฟต์แวร์ระบบ WMS ไม่ได้เป็นเพียงเครื่องมือแก้ปัญหาเฉพาะหน้า แต่เป็นกลยุทธ์ระยะยาวที่ส่งผลดีในหลายมิติ

  • ความสามารถในการขยายธุรกิจ (Scalability) เมื่อธุรกิจเติบโต ออเดอร์เพิ่มขึ้น สินค้าหลากหลายขึ้น ระบบ WMS ที่ดีสามารถรองรับการขยายตัวนี้ได้อย่างราบรื่น โดยไม่ต้องยกเครื่องระบบใหม่ทั้งหมด
  • ความพึงพอใจของลูกค้าที่เพิ่มขึ้น (Improved Customer Satisfaction) การจัดส่งที่รวดเร็ว ถูกต้อง และครบถ้วน สร้างประสบการณ์ที่ดีให้กับลูกค้า นำไปสู่ความภักดีในแบรนด์และการซื้อซ้ำ
  • ความได้เปรียบในการแข่งขัน (Competitive Advantage) ในยุคที่ลูกค้าคาดหวังความเร็วและความแม่นยำ การมีระบบโลจิสติกส์ที่เหนือกว่าคู่แข่งย่อมสร้างความได้เปรียบ
  • การดำเนินงานที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม (Sustainable Operations) การลดความผิดพลาด การใช้ทรัพยากรอย่างมีประสิทธิภาพ และการวางแผนเส้นทางที่ดีขึ้น ล้วนช่วยลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมได้ทางอ้อม

Cnetthailand พันธมิตรผู้เชี่ยวชาญด้านระบบ WMS เพื่อความสำเร็จของ SME ไทย

ด้วยความเข้าใจอย่างลึกซึ้งถึงความต้องการและความท้าทายของธุรกิจ SME และ Startup ในประเทศไทย cnetthailand พร้อมเป็นมากกว่าผู้ให้บริการซอฟต์แวร์ เราคือพันธมิตรที่จะร่วมเดินทางไปกับคุณ

  • ประสบการณ์กว่า 30 ปี และอันดับ 1 ในญี่ปุ่น 11 ปีซ้อน ความเชี่ยวชาญที่สั่งสมมายาวนานในตลาดที่มีการแข่งขันสูงอย่างญี่ปุ่น และได้รับการยอมรับจาก Deloitte Tohmatsu Mic Research Institute Co., Ltd. ว่าเป็นที่ 1 อย่างต่อเนื่อง คือเครื่องการันตีคุณภาพและโซลูชันที่ตอบโจทย์จริง
  • บริการครบวงจร (Full-Service Provider) เราไม่ได้มีเพียงโปรแกรมระบบ WMS แต่ยังให้บริการครอบคลุมตั้งแต่การให้คำปรึกษา การออกแบบระบบที่เหมาะสม การติดตั้งอุปกรณ์ที่เกี่ยวข้อง เช่น Handheld Scanners, Printers ไปจนถึงการฝึกอบรมและการสนับสนุนหลังการขาย เพื่อให้มั่นใจว่าท่านจะสามารถใช้งานระบบได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ
  • ความเข้าใจในตลาดไทย ทีมงาน cnetthailand มีความเข้าใจในบริบทและลักษณะเฉพาะของธุรกิจในประเทศไทย ทำให้สามารถปรับและนำเสนอโซลูชันที่สอดคล้องกับความต้องการของท่านได้อย่างแท้จริง
ระบบ WMS ตรวจสอบสินค้าได้อย่างแม่นยำ

“Ci.Himalayas/Base” ระบบ WMS ที่ใช่สำหรับ SME และ Startup ไทย จาก cnetthailand

cnetthailand ภูมิใจนำเสนอ “Ci.Himalayas/Base” ซอฟต์แวร์ระบบ WMS ที่พัฒนาขึ้นโดยเฉพาะเพื่อตอบโจทย์ความต้องการของธุรกิจ SME และ Startup ด้วยแนวคิดที่เน้นความง่ายในการใช้งาน ฟังก์ชันที่ครบครัน และราคาที่เข้าถึงได้:

  • ใช้งานง่ายบนระบบคลาวด์ (Cloud-Based and User-Friendly) ไม่ต้องลงทุนกับเซิร์ฟเวอร์ราคาแพง สามารถเข้าใช้งานระบบได้ทุกที่ทุกเวลาผ่านอินเทอร์เน็ต เหมาะสำหรับธุรกิจที่ต้องการความคล่องตัว
  • ฟังก์ชันหลักครบครัน (Essential Functions Covered) แม้จะออกแบบมาเพื่อ SME แต่ Ci.Himalayas/Base มาพร้อมฟังก์ชันที่จำเป็นต่อการบริหารจัดการคลังสินค้าอย่างมืออาชีพ ไม่ว่าจะเป็น การจัดการข้อมูลสินค้า (Item Master), การรับสินค้า (Inbound), การจัดเก็บ (Putaway), การเบิกจ่าย (Outbound), การตรวจนับสต็อก (Stocktaking) และการดูรายงาน (Reporting)
  • ปรับแต่งได้ตามความต้องการ (Customizable) เราเข้าใจว่าแต่ละธุรกิจมีความแตกต่าง ระบบของเราจึงสามารถปรับฟังก์ชันบางส่วนให้เข้ากับลักษณะการทำงานเฉพาะของท่านได้
  • เริ่มต้นได้แม้มีผู้ใช้งานคนเดียว เหมาะสำหรับเจ้าของธุรกิจที่เริ่มต้นจัดการสต็อกด้วยตนเอง หรือทีมงานขนาดเล็กที่ต้องการยกระดับการทำงานจาก Excel มาสู่ระบบที่เป็นมืออาชีพมากขึ้น
  • ราคาที่สมเหตุสมผล คุ้มค่ากับการลงทุน (Affordable Investment) cnetthailand ออกแบบ Ci.Himalayas/Base ให้มีค่าใช้จ่ายที่ SME และ Startup สามารถเข้าถึงได้ โดยมองเห็นผลตอบแทนจากการลงทุน (ROI) ที่ชัดเจนผ่านการลดต้นทุนและความผิดพลาดในการดำเนินงาน

Ci.Himalayas/Base ไม่ใช่แค่โปรแกรม แต่เป็นเครื่องมือที่จะช่วยปลดปล่อยศักยภาพของธุรกิจท่าน ให้สามารถบริหารจัดการคลังสินค้าได้อย่างมืออาชีพ ลดภาระงานที่ยุ่งเหยิง และมีเวลาไปโฟกัสกับการพัฒนาธุรกิจหลักให้เติบโต

สัมผัสประสบการณ์จริงพลังของระบบ WMS ในการขับเคลื่อนธุรกิจ

ลองจินตนาการว่า หลังจากนำระบบ WMS จาก cnetthailand เข้ามาใช้ ธุรกิจของท่านจะเปลี่ยนแปลงไปอย่างไร:

  • เช้าวันจันทร์ที่สดใส แทนที่จะเริ่มต้นด้วยการตามหาสินค้าที่หายไป หรือแก้ไขออเดอร์ที่ผิดพลาด ท่านสามารถตรวจสอบสถานะคำสั่งซื้อและสินค้าคงคลังได้อย่างรวดเร็วผ่านแดชบอร์ด
  • การรับสินค้าที่ไม่ยุ่งยากอีกต่อไป พนักงานใช้เครื่องสแกนรับสินค้าเข้าระบบได้อย่างถูกต้องแม่นยำ ข้อมูลอัปเดตทันที
  • การหยิบสินค้าที่รวดเร็วปานสายฟ้า ระบบคลังสินค้า WMS นำทางพนักงานไปยังตำแหน่งสินค้าได้อย่างแม่นยำ ลดเวลาการค้นหาลงกว่าครึ่ง
  • ลูกค้าได้รับสินค้าถูกต้องและตรงเวลา สร้างความประทับใจและรีวิวเชิงบวก
  • สิ้นเดือนที่ไม่ต้องปวดหัวกับการนับสต็อก ระบบคลังสินค้าออนไลน์ WMS ช่วยให้การตรวจนับสต็อกง่ายขึ้น มีข้อมูลเปรียบเทียบที่ชัดเจน

นี่คือสิ่งที่ cnetthailand มุ่งมั่นที่จะมอบให้กับลูกค้าของเรา คือการเปลี่ยนความท้าทายด้านโลจิสติกส์ให้เป็นโอกาสในการเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขัน

สำหรับผู้ประกอบการ SME และ Startup ที่กำลังมองหาหนทางในการลดต้นทุนโลจิสติกส์ เพิ่มประสิทธิภาพการทำงาน และสร้างการเติบโตที่ยั่งยืน การตัดสินใจลงทุนในระบบ WMS คือก้าวที่สำคัญและคุ้มค่า

cnetthailand พร้อมแล้วที่จะเป็นที่ปรึกษาและผู้ให้บริการซอฟต์แวร์ระบบ WMS และโปรแกรมระบบ WMS ที่ตอบโจทย์ธุรกิจของท่านอย่างแท้จริง ด้วยประสบการณ์กว่า 30 ปี ความเป็นผู้นำอันดับ 1 ในญี่ปุ่น และความมุ่งมั่นที่จะสนับสนุนธุรกิจไทยให้ก้าวหน้า อย่าปล่อยให้ต้นทุนโลจิสติกส์ที่สูงเกินความจำเป็นมาเป็นอุปสรรคต่อการเติบโตของท่าน

ติดต่อ cnetthailand วันนี้ เพื่อรับคำปรึกษาและสาธิตการใช้งานระบบ WMS “Ci.Himalayas/Base” ฟรี! ให้เราช่วยท่านค้นพบว่าการลดต้นทุนโลจิสติกส์มากกว่า 30% อย่างยั่งยืนนั้นเป็นไปได้อย่างไร และเปลี่ยนคลังสินค้าของท่านให้กลายเป็นศูนย์กลางแห่งประสิทธิภาพและความสำเร็จ

สนใจติดต่อ

cnetthailand Co., Ltd

Tel : 02-821-5464

Line : @cnetthailand

Facebook : c net thailand co ltd