ทำไมธุรกิจโลจิสติกส์ 3PL ต้องมีระบบ WMS?

ทำไมธุรกิจโลจิสติกส์ 3PL ต้องมีระบบ WMS?

การเติบโตอย่างรวดเร็วของธุรกิจอีคอมเมิร์ซและโลจิสติกส์ในปัจจุบัน ส่งผลให้การแข่งขันในอุตสาหกรรมโลจิสติกส์เข้มข้นขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะธุรกิจ 3PL (Third Party Logistics) ซึ่งเป็นหัวใจสำคัญในการให้บริการคลังสินค้าและกระจายสินค้าให้กับธุรกิจ SME ต่างๆ และปัจจัยสำคัญที่จะช่วยให้ธุรกิจ 3PL ประสบความสำเร็จคือ ระบบ WMS (Warehouse Management System) หรือระบบบริหารจัดการคลังสินค้า ที่มีบทบาทสำคัญในการเพิ่มประสิทธิภาพการจัดการคลังสินค้าอย่างเห็นผลชัดเจน

• ทำไมระบบ WMS ถึงสำคัญต่อธุรกิจ SME ในปี 2025
• ระบบ WMS แบบ Cloud VS On-Premise เลือกให้เหมาะกับธุรกิจ SME
• ระบบ WMS กุญแจสำคัญสู่คลังสินค้าอัจฉริยะ

ความท้าทายของธุรกิจโลจิสติกส์ 3PL ในการจัดการคลังสินค้า

ผู้ให้บริการ 3PL ต้องรับมือกับความคาดหวังที่สูงจากลูกค้า ไม่ว่าจะเป็นความรวดเร็ว ความถูกต้องแม่นยำในการจัดส่ง และความสามารถในการมองเห็นสถานะสินค้าคงคลังแบบเรียลไทม์ นอกจากนี้ ยังต้องเผชิญกับความท้าทายเฉพาะตัว

• การจัดการสินค้าคงคลังที่หลากหลาย 3PL ต้องบริหารจัดการสินค้าหลากหลายประเภท (SKUs) จากลูกค้าหลายราย ซึ่งแต่ละรายอาจมีข้อกำหนดในการจัดเก็บ การหยิบสินค้า และการจัดส่งที่แตกต่างกัน การจัดการด้วยระบบ Manual หรือ Excel แบบดั้งเดิมจึงเสี่ยงต่อความผิดพลาดสูง
• ความต้องการด้านความถูกต้องและรวดเร็ว ลูกค้าคาดหวังว่าสินค้าจะถูกจัดเก็บอย่างถูกต้อง หยิบและแพ็คได้อย่างรวดเร็ว และจัดส่งตรงเวลา ความผิดพลาดเพียงเล็กน้อยอาจส่งผลกระทบต่อความพึงพอใจและชื่อเสียงของทั้ง 3PL และลูกค้า
• การเพิ่มประสิทธิภาพพื้นที่คลังสินค้า การใช้พื้นที่ในคลังสินค้าให้เกิดประโยชน์สูงสุดเป็นสิ่งสำคัญในการควบคุมต้นทุน 3PL ต้องสามารถจัดวางสินค้าได้อย่างเป็นระบบและเข้าถึงได้ง่าย
• การบริหารจัดการแรงงาน การจัดสรรพนักงานให้ทำงานในส่วนต่างๆ ของคลังสินค้าได้อย่างมีประสิทธิภาพ การวัดผลการปฏิบัติงาน และการลดขั้นตอนที่ซ้ำซ้อน เป็นปัจจัยสำคัญในการเพิ่มผลิตภาพ
• การให้ข้อมูลแก่ลูกค้า ลูกค้าต้องการทราบสถานะสินค้าคงคลังและคำสั่งซื้อของตนเองแบบเรียลไทม์ การให้ข้อมูลที่โปร่งใสและเข้าถึงได้ง่ายช่วยสร้างความไว้วางใจและความสัมพันธ์ที่ดี
• ความสามารถในการปรับขนาด ธุรกิจ 3PL ต้องสามารถรองรับการเติบโตของลูกค้าเดิมและการเพิ่มขึ้นของลูกค้าใหม่ได้อย่างรวดเร็ว ระบบการจัดการจึงต้องมีความยืดหยุ่นและสามารถขยายขนาดได้

เปรียบเทียบการจัดการคลังสินค้าแบบเดิม VS การใช้ระบบ WMS ในธุรกิจ 3P

คุณลักษณะ	การจัดการแบบเดิม (Manual/Excel)	การจัดการด้วย ระบบ WMS
ความถูกต้องแม่นยำ	ต่ำ เสี่ยงต่อ Human Error สูง ข้อมูลสินค้าคงคลังไม่ Real-time	สูงมาก ลดข้อผิดพลาดจากการทำงานด้วย Barcode/RFID ข้อมูลอัปเดต Real-time
ประสิทธิภาพ	ต่ำ ใช้เวลาในการค้นหา หยิบ แพ็ค สินค้านาน พึ่งพาความจำพนักงาน	สูง เพิ่มประสิทธิภาพการทำงานด้วยการแนะนำตำแหน่งจัดเก็บ/เส้นทางหยิบสินค้า ลดเวลาทำงาน
การมองเห็นข้อมูล	จำกัด ลูกค้าและผู้บริหารเข้าถึงข้อมูลสต็อกได้ยาก หรือล่าช้า	สูง สามารถตรวจสอบสถานะสินค้าคงคลัง คำสั่งซื้อ ได้แบบ Real-time ผ่าน Dashboard หรือ Report
การใช้พื้นที่	อาจไม่เต็มประสิทธิภาพ จัดเก็บไม่เป็นระบบ	ดีเยี่ยม แนะนำตำแหน่งจัดเก็บที่เหมาะสม เพิ่มประสิทธิภาพการใช้พื้นที่
การจัดการแรงงาน	วัดผลยาก จัดสรรงานลำบาก	ง่าย สามารถติดตามประสิทธิภาพพนักงาน จัดสรรงานตามลำดับความสำคัญได้
ความสามารถในการปรับขนาด	จำกัด รองรับการเติบโตหรือความซับซ้อนที่เพิ่มขึ้นได้ยาก	สูง ยืดหยุ่น รองรับ SKU และปริมาณธุรกรรมที่เพิ่มขึ้นได้ง่าย
ต้นทุนระยะยาว	อาจดูเหมือนต่ำ แต่มีต้นทุนแฝงจากความผิดพลาด ความล่าช้า สินค้าเสียหาย	ลดต้นทุนแฝง ลดค่าแรงงาน ลดความผิดพลาด เพิ่มความพึงพอใจลูกค้า คุ้มค่าในระยะยาว
การบริการลูกค้า	อาจล่าช้า ข้อมูลไม่ถูกต้อง	รวดเร็ว แม่นยำ สร้างความน่าเชื่อถือและความพึงพอใจสูงสุด

5 เหตุผลทำไมธุรกิจ 3PL ต้องลงทุนในระบบ WMS

จากตารางเปรียบเทียบ จะเห็นได้ว่าระบบคลังสินค้า WMS ไม่ใช่แค่เครื่องมือ แต่เป็นกลยุทธ์สำคัญที่ช่วยให้ธุรกิจ 3PL ก้าวข้ามความท้าทายและสร้างความได้เปรียบทางการแข่งขัน นี่คือเหตุผลสำคัญ 5 ประการที่ผู้ประกอบการ 3PL ควรพิจารณาลงทุนในระบบ WMS

• เพิ่มความแม่นยำสูงสุด ลดข้อผิดพลาดเป็นศูนย์ หัวใจสำคัญของ 3PL คือความไว้วางใจ ระบบ WMS ช่วยลดความผิดพลาดจากการทำงานด้วยมือ (Human Error) ในทุกขั้นตอน ตั้งแต่การรับสินค้า การจัดเก็บ จนถึงการหยิบและจัดส่ง การสแกนบาร์โค้ดช่วยยืนยันความถูกต้อง ทำให้สต็อกสินค้าแม่นยำ ลดปัญหาสินค้าสูญหาย เสียหาย หรือส่งผิด ซึ่งช่วยลดต้นทุนที่เกิดจากข้อผิดพลาดและรักษาชื่อเสียงของบริษัท
• เพิ่มประสิทธิภาพการดำเนินงาน ลดต้นทุนที่ไม่จำเป็น ระบบ WMS ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในทุกตารางนิ้วของคลังสินค้า โปรแกรมระบบคลังสินค้า WMS จะแนะนำตำแหน่งจัดเก็บที่เหมาะสม ช่วยให้ใช้พื้นที่ได้คุ้มค่าที่สุด และแนะนำเส้นทางการหยิบสินค้าที่สั้นที่สุด (Optimized Picking Routes) ช่วยลดเวลาการทำงานของพนักงานลงได้อย่างมาก นอกจากนี้ การทำงานที่เป็นระบบมากขึ้นยังช่วยลดการพึ่งพาพนักงานที่ต้องมีความชำนาญเฉพาะทาง ทำให้บริหารจัดการแรงงานได้ง่ายขึ้น ทั้งหมดนี้ส่งผลโดยตรงต่อการลดต้นทุนการดำเนินงาน
• เพิ่มความสามารถในการมองเห็นและการติดตาม (Visibility & Traceability) ในธุรกิจ 3PL การให้ข้อมูลที่โปร่งใสแก่ลูกค้าเป็นสิ่งสำคัญ ระบบ WMS ช่วยให้ทั้ง 3PL และลูกค้าสามารถตรวจสอบสถานะสินค้าคงคลัง จำนวน ตำแหน่ง สถานะคำสั่งซื้อ ได้แบบเรียลไทม์ ผ่านระบบออนไลน์หรือรายงานอัตโนมัติ นอกจากนี้ ยังสามารถติดตามย้อนกลับ (Traceability) ไปถึงล็อตการผลิตหรือวันที่รับเข้าได้ง่ายดาย ซึ่งจำเป็นอย่างยิ่งสำหรับสินค้าบางประเภท เช่น อาหาร หรือยา
• รองรับการเติบโตและความยืดหยุ่นของธุรกิจ เมื่อธุรกิจ 3PL เติบโต การจัดการคลังสินค้าด้วยวิธีเดิมๆ จะกลายเป็นคอขวด ระบบคลังสินค้าออนไลน์ WMS ที่ดีจะสามารถปรับขนาด (Scalable) เพื่อรองรับปริมาณสินค้าและจำนวนลูกค้าที่เพิ่มขึ้นได้โดยไม่ทำให้ประสิทธิภาพลดลง นอกจากนี้ ยังมีความยืดหยุ่น (Flexible) ในการปรับเปลี่ยนกระบวนการทำงานให้เข้ากับความต้องการที่หลากหลายของลูกค้าแต่ละรายได้อย่างรวดเร็ว
• ยกระดับความพึงพอใจและสร้างความภักดีของลูกค้า ท้ายที่สุดแล้ว เป้าหมายของ 3PL คือการให้บริการที่เป็นเลิศแก่ลูกค้า ระบบ WMS ช่วยให้คุณทำได้ตามเป้าหมาย ด้วยการจัดส่งที่รวดเร็วขึ้น แม่นยำขึ้น และการให้ข้อมูลที่โปร่งใส ทำให้ลูกค้าเกิดความพึงพอใจ ไว้วางใจ และเลือกใช้บริการของคุณต่อไปในระยะยาว สิ่งนี้จะสร้างความได้เปรียบทางการแข่งขันที่ยั่งยืนในตลาด 3PL ที่มีการแข่งขันสูง

การเลือกระบบ WMS ที่เหมาะสมสำหรับธุรกิจ 3PL

• ฟังก์ชันที่ตอบโจทย์ธุรกิจ 3PL ระบบ WMS ต้องรองรับการจัดการลูกค้าหลายราย (Multi-Client) การคิดค่าบริการตามกิจกรรม (Activity-Based Billing) และการกำหนดค่าเฉพาะสำหรับลูกค้าแต่ละรายได้
• ความสามารถในการปรับขนาด (Scalability) ระบบ WMS ควรรองรับการเติบโตของธุรกิจในอนาคตได้
• การเชื่อมต่อกับระบบอื่น (Integration) สามารถเชื่อมต่อกับระบบ ERP ของลูกค้า ระบบจัดการขนส่ง (TMS) หรือระบบอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องได้
• ความง่ายในการใช้งาน (User-Friendliness) พนักงานสามารถเรียนรู้และใช้งานระบบได้อย่างรวดเร็ว
• การสนับสนุนและบริการหลังการขาย ผู้ให้บริการมีความเชี่ยวชาญ ให้คำปรึกษา และมีบริการหลังการขายที่ดี

ทำไมธุรกิจโลจิสติกส์ 3PL ต้องเลือกระบบ WMS จาก CNET Thailand?

ในตลาดปัจจุบัน มีผู้ให้บริการระบบ WMS มากมาย แต่สิ่งที่ทำให้ CNET Thailand แตกต่างและเป็นผู้นำในตลาดมาอย่างยาวนาน

• ประสบการณ์และความเชี่ยวชาญ ด้วยประสบการณ์กว่า 30 ปีในการให้บริการระบบจัดการคลังสินค้า เรามีความเข้าใจอย่างลึกซึ้งในความต้องการและ challenges ของธุรกิจโลจิสติกส์ 3PL
• เทคโนโลยีที่ทันสมัย ระบบ WMS ของ CNET Thailand ได้รับการพัฒนาอย่างต่อเนื่องด้วยเทคโนโลยีที่ทันสมัย เพื่อตอบสนองความต้องการของธุรกิจในยุคดิจิทัล
• ความน่าเชื่อถือ การครองตำแหน่งยอดขายอันดับ 1 ในประเทศญี่ปุ่นต่อเนื่องถึง 11 ปี เป็นเครื่องยืนยันถึงความน่าเชื่อถือและคุณภาพของระบบคลังสินค้า WMS ของเรา
• โซลูชันแบบครบวงจร เราไม่ได้มีเพียงแค่ซอฟต์แวร์ แต่เรายังมีอุปกรณ์และบริการติดตั้ง รวมถึงการฝึกอบรมและการสนับสนุนหลังการขายอย่างครบวงจร
• ความยืดหยุ่นในการปรับแต่ง ระบบคลังสินค้าอัจฉริยะ WMS ของเราสามารถปรับแต่งให้เข้ากับความต้องการเฉพาะของแต่ละธุรกิจ 3PL ได้อย่างลงตัว

สำหรับธุรกิจโลจิสติกส์ 3PL ในยุคปัจจุบันระบบ WMS ไม่ใช่เพียงแค่ซอฟต์แวร์เสริม แต่เป็นเครื่องมือเชิงกลยุทธ์ที่จำเป็นต่อการอยู่รอดและการเติบโต การลงทุนในระบบ WMS ที่เหมาะสม จะช่วยเพิ่มความแม่นยำ ประสิทธิภาพ ลดต้นทุน สร้างความโปร่งใส และที่สำคัญที่สุดคือ สร้างความได้เปรียบทางการแข่งขันและตอบสนองความคาดหวังของลูกค้าได้อย่างเหนือชั้น หากคุณคือผู้ประกอบการ 3PL ที่กำลังมองหาโซลูชันเพื่อยกระดับการจัดการคลังสินค้า การพิจารณาลงทุนในระบบ WMS ที่มีคุณภาพและเหมาะสมกับธุรกิจ คือก้าวสำคัญสู่ความสำเร็จอย่างยั่งยืน

ท่านใดที่กำลังมองหาระบบ WMS ที่ Cnetthailand เราเป็นบริษัทที่ให้บริการระบบจัดการคลังสินค้า WMS เต็มรูปแบบพร้อมอุปกรณ์ที่ทันสมัย โดยระบบคลังสินค้าอัจฉริยะ WMS ของเราสามารถปรับแต่งให้เหมาะสมกับอุตสาหกรรมและธุรกิจแต่ละประเภท ด้วยประสบการณ์ด้านระบบ WMS กว่า 30 ปี และมียอดขายระบบคลังสินค้า WMS เป็นอันดับ 1 ในประเทศญี่ปุ่นต่อเนื่องกันถึง 11 ปี ให้เรา Cnetthailand ช่วยดูแลระบบคลังสินค้าของคุณนะคะ

สนใจติดต่อ

Tel : 02-821-5464

Line : @cnetthailand

Facebook : c net thailand co ltd