ระบบ WMS ราคาเท่าไหร่? เผยวิธีเตรียมงบประมาณให้คุ้มค่าที่สุด

ระบบ WMS ราคาเท่าไหร่ เผยวิธีเตรียมงบประมาณให้คุ้มค่าที่สุด

ระบบ WMS ราคาเท่าไหร่? เผยวิธีเตรียมงบประมาณให้คุ้มค่าที่สุด

คุณกำลังปวดหัวกับปัญหาสินค้าในคลังไม่ตรงกับยอด? ค้นหาสินค้านานจนเสียเวลา? หรือพนักงานทำงานซ้ำซ้อนจนเกิดข้อผิดพลาดบ่อยครั้ง? หากคำตอบคือใช่ ถึงเวลาแล้วที่คุณจะพิจารณานำ ระบบ WMS (Warehouse Management System) หรือ ระบบจัดการคลังสินค้า เข้ามาปฏิวัติการทำงานในคลังของคุณ แต่คำถามสำคัญที่ตามมาคือ “ระบบ WMS ราคาเท่าไหร่?” และ “จะเตรียมงบประมาณอย่างไรให้คุ้มค่าที่สุด?”

ในฐานะ CNET Thailand ผู้นำด้าน ระบบ WMS แบบครบวงจรพร้อมอุปกรณ์ ด้วยประสบการณ์เชี่ยวชาญกว่า 30 ปี และครองยอดขายอันดับ 1 ในประเทศญี่ปุ่นต่อเนื่องถึง 11 ปี เราเข้าใจดีถึงความท้าทายของผู้ประกอบการ โดยเฉพาะผู้ที่กำลังเริ่มต้นศึกษาและตัดสินใจลงทุนในเทคโนโลยี วันนี้ CNET Thailand จะพาคุณไปเจาะลึกทุกเรื่องที่คุณต้องรู้เกี่ยวกับราคาระบบ WMS ตั้งแต่ภาพรวมราคา ปัจจัยที่มีผลต่อราคา วิธีการเลือก ระบบ WMS ให้เหมาะสมกับธุรกิจ ไปจนถึงเคล็ดลับการเตรียมงบประมาณให้คุ้มค่าทุกบาททุกสตางค์ เพื่อให้ธุรกิจของคุณเติบโตอย่างมั่นคงและยั่งยืน

ระบบ WMS หรือ Inventory อะไร ที่เหมาะกับธุรกิจของคุณ

ทำไมธุรกิจของคุณถึงต้องมีระบบ WMS?

ในยุคที่การแข่งขันทางธุรกิจสูงขึ้นทุกวัน การจัดการคลังสินค้าอย่างมีประสิทธิภาพไม่ใช่แค่ทางเลือก แต่เป็นสิ่งที่จำเป็นอย่างยิ่งต่อความสำเร็จของธุรกิจ ไม่ว่าจะเป็นธุรกิจขนาดเล็กที่เพิ่งเริ่มต้น หรือธุรกิจขนาดกลางที่กำลังขยายตัว การมีระบบ WMS ที่ดีจะช่วยให้การดำเนินงานในคลังสินค้าเป็นไปอย่างราบรื่น ลดข้อผิดพลาด และสร้างความพึงพอใจให้กับลูกค้าได้อย่างเหนือกว่า

ระบบ WMS หรือระบบจัดการคลังสินค้า WMS ทำหน้าที่เป็นเหมือน “สมอง” ของคลังสินค้า ช่วยควบคุมและจัดการการเคลื่อนไหวของสินค้าตั้งแต่ต้นจนจบ ตั้งแต่การรับสินค้าเข้าคลัง การจัดเก็บ การจัดการสต็อก ไปจนถึงการหยิบและจัดส่งสินค้าออกไป การนำระบบ WMS มาใช้ในธุรกิจของคุณจะนำมาซึ่งประโยชน์มากมาย

  • เพิ่มประสิทธิภาพและความรวดเร็วในการทำงาน ลดขั้นตอนที่ซ้ำซ้อน ลดความผิดพลาด ทำให้การค้นหาสินค้า การหยิบ และการจัดเก็บสินค้ารวดเร็วขึ้นอย่างเห็นได้ชัด
  • ยกระดับความแม่นยำของสินค้าคงคลัง ติดตามและควบคุมปริมาณสินค้าคงคลังได้อย่างแม่นยำ ลดปัญหาการขาดสต็อกหรือมีสินค้าคงค้างมากเกินความจำเป็น
  • จัดระเบียบและใช้พื้นที่คลังสินค้าอย่างคุ้มค่า แนะนำตำแหน่งการจัดเก็บสินค้าที่เหมาะสม ทำให้การใช้พื้นที่ในคลังสินค้าเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพสูงสุด
  • ลดต้นทุนการดำเนินงานและเพิ่มโอกาสในการทำกำไร การทำงานที่มีประสิทธิภาพ ลดความผิดพลาด และควบคุมสต็อกได้ดีขึ้น ส่งผลให้ต้นทุนการดำเนินงานลดลง และมีโอกาสในการเพิ่มยอดขาย
  • เสริมสร้างความสามารถในการจัดการโปรโมชั่นและคำสั่งซื้อพิเศษ รองรับการจัดการโปรโมชั่นต่างๆ และคำสั่งซื้อที่มีเงื่อนไขพิเศษได้อย่างง่ายดาย
  • รองรับการขายหลากหลายช่องทาง (Omnichannel) สำหรับธุรกิจที่ขายสินค้าผ่านหลายช่องทาง ระบบ WMS จะช่วยให้การจัดการสต็อกเป็นไปอย่างราบรื่นและอัปเดตข้อมูลแบบเรียลไทม์
  • มีข้อมูลแบบเรียลไทม์เพื่อการตัดสินใจทางธุรกิจที่ชาญฉลาด ให้ข้อมูลที่ถูกต้องและทันทีเกี่ยวกับการดำเนินงานในคลังสินค้า ช่วยให้ผู้บริหารสามารถตัดสินใจทางธุรกิจได้อย่างมีประสิทธิภาพ
CNET Warehouse management system (WMS)

ราคาระบบ WMS โดยทั่วไปในประเทศไทย คุ้มค่ากับการลงทุนหรือไม่?

สำหรับผู้ประกอบการที่กำลังพิจารณาลงทุนใน โปรแกรมระบบคลังสินค้า WMS สิ่งที่อยากรู้มากที่สุดคือ “ราคาโดยทั่วไปของ ระบบ WMS ในประเทศไทยอยู่ที่เท่าไหร่?” จากข้อมูลในตลาด ราคาระบบ WMS มีความหลากหลาย ตั้งแต่หลักหมื่นไปจนถึงหลักล้านบาท ขึ้นอยู่กับปัจจัยหลายประการ

Cnetthailand ในฐานะผู้ให้บริการระบบ WMS ชั้นนำ เข้าใจถึงความต้องการของธุรกิจทุกขนาด เรามีโซลูชั่นที่หลากหลาย รวมถึงระบบ “Ci.Himalayas/Base” ที่พัฒนาขึ้นมาเพื่อตอบโจทย์ธุรกิจขนาดเล็กและขนาดกลางในประเทศไทยโดยเฉพาะ ด้วยฟังก์ชันที่ครบครันและราคาที่เหมาะสม

สำหรับระบบ WMS พื้นฐานบางแพ็กเกจ อาจมีราคาเริ่มต้นเพียงหลักร้อยถึงหลักพันบาทต่อเดือน  ซึ่งเหมาะสำหรับธุรกิจขนาดเล็กที่มีความต้องการฟังก์ชันที่ไม่ซับซ้อนมากนัก ในขณะที่ ระบบคลังสินค้า WMS ที่มีฟังก์ชันการทำงานที่ครอบคลุมและซับซ้อนมากขึ้น หรือระบบที่ออกแบบมาสำหรับองค์กรขนาดใหญ่ อาจมีราคาสูงขึ้นตามไปด้วย

สิ่งสำคัญที่ควรทราบคือ ราคาของระบบจัดการคลังสินค้า WMS นั้นไม่ใช่ตัวเลขตายตัว แต่ขึ้นอยู่กับปัจจัยหลายประการ ซึ่งเราจะลงรายละเอียดในหัวข้อถัดไป การทำความเข้าใจปัจจัยเหล่านี้จะช่วยให้คุณสามารถประเมินงบประมาณที่เหมาะสมและเลือกระบบที่คุ้มค่าที่สุดสำหรับธุรกิจของคุณได้

ปัจจัยสำคัญที่มีผลต่อราคาระบบ WMS กำหนดงบประมาณให้ตรงจุด

  1. ขนาดและความซับซ้อนของธุรกิจ ธุรกิจขนาดใหญ่ที่มีปริมาณสินค้าและคำสั่งซื้อมาก รวมถึงกระบวนการที่ซับซ้อน มักต้องการระบบ WMS ที่มีฟังก์ชันหลากหลายและรองรับการทำงานที่ซับซ้อน ซึ่งจะมีราคาสูงกว่าระบบพื้นฐาน
  2. จำนวนผู้ใช้งาน ผู้ให้บริการบางรายคิดราคาตามจำนวนผู้ใช้งานที่จะเข้าถึงระบบ ยิ่งมีผู้ใช้งานมาก ราคาก็อาจสูงขึ้น
  3. ฟังก์ชันและคุณสมบัติที่ต้องการ ระบบคลังสินค้า WMS ที่มีฟังก์ชันและคุณสมบัติขั้นสูง เช่น การวิเคราะห์ข้อมูลเชิงลึก การบูรณาการกับระบบอื่นๆ หรือฟังก์ชันเฉพาะสำหรับอุตสาหกรรมนั้นๆ จะมีราคาสูงกว่าระบบที่มีฟังก์ชันพื้นฐาน
  4. ประเภทการติดตั้ง
  5. ระบบ Cloud-based (SaaS) มักมีค่าใช้จ่ายในรูปแบบการสมัครสมาชิกรายเดือนหรือรายปี มีข้อดีคือต้นทุนเริ่มต้นต่ำ เหมาะสำหรับธุรกิจขนาดเล็กถึงกลาง
  6. ระบบ On-premise ต้องลงทุนในส่วนของซอฟต์แวร์และฮาร์ดแวร์เอง มีค่าใช้จ่ายเริ่มต้นสูงกว่า และอาจมีค่าบำรุงรักษาเพิ่มเติม
  7. ความซับซ้อนในการบูรณาการกับระบบเดิม หากต้องการเชื่อมต่อระบบ WMS กับระบบ ERP, CRM หรือแพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซ อาจมีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมตามความซับซ้อน
  8. การปรับแต่งระบบ (Customization) หากธุรกิจมีความต้องการเฉพาะที่ไม่ตรงกับฟังก์ชันมาตรฐาน และต้องมีการปรับแต่งเพิ่มเติม จะมีค่าใช้จ่ายในส่วนนี้
  9. ค่าใช้จ่ายด้านฮาร์ดแวร์ นอกเหนือจากค่าซอฟต์แวร์ อาจมีค่าใช้จ่ายสำหรับอุปกรณ์ที่จำเป็น เช่น เครื่องสแกนบาร์โค้ด อุปกรณ์มือถือสำหรับคลังสินค้า และเครื่องพิมพ์
  10. ค่าติดตั้งและฝึกอบรม การติดตั้งระบบคลังสินค้า WMS และการฝึกอบรมพนักงานให้ใช้งานได้อย่างมีประสิทธิภาพก็เป็นส่วนหนึ่งของค่าใช้จ่าย
  11. ค่าบำรุงรักษาและการสนับสนุน ค่าใช้จ่ายรายปีหรือรายเดือนสำหรับการอัปเดตซอฟต์แวร์ การสนับสนุนทางเทคนิค และการบำรุงรักษาระบบ WMS

เลือกระบบ WMS อย่างไรให้ตอบโจทย์และคุ้มค่าที่สุด?

  • ความสอดคล้องของฟังก์ชัน (Functionality Fit) ระบบ WMS มีฟังก์ชันที่ตอบโจทย์ความต้องการเฉพาะของธุรกิจคุณหรือไม่?
  • ความสามารถในการปรับขยาย (Scalability) ระบบ WMS สามารถรองรับการเติบโตของธุรกิจในอนาคตได้หรือไม่?
  • ความเป็นมิตรต่อผู้ใช้งาน (User-Friendliness) ระบบ WMS ใช้งานง่ายหรือไม่? พนักงานต้องใช้เวลาเรียนรู้นานแค่ไหน?
  • ความสามารถในการเชื่อมต่อ (Integration Capabilities) สามารถเชื่อมต่อกับระบบ ERP หรือระบบอื่นๆ ที่คุณใช้อยู่ได้หรือไม่?
  • ชื่อเสียงและประสบการณ์ของผู้ให้บริการ (Vendor Reputation & Experience) ผู้ให้บริการมีความน่าเชื่อถือ มีประสบการณ์ในอุตสาหกรรมของคุณหรือไม่? มีลูกค้าอ้างอิงที่ประสบความสำเร็จหรือไม่?
  • จุดแข็งของ CNET Thailand ด้วยประสบการณ์กว่า 30 ปี และการเป็นผู้นำตลาดในญี่ปุ่น 11 ปีซ้อน เรามีความเชี่ยวชาญในการนำเสนอโซลูชัน ระบบ WMS ที่พิสูจน์แล้วว่ามีประสิทธิภาพจริง
  • การสนับสนุนและบริการหลังการขาย (Support & Service Level Agreements – SLAs) ผู้ให้บริการมีทีมสนับสนุนที่ตอบสนองได้รวดเร็วหรือไม่? มีข้อตกลงระดับการให้บริการ (SLA) ที่ชัดเจนหรือไม่?
  • เทคโนโลยีและแพลตฟอร์ม (Technology & Platform) ระบบ WMS ใช้เทคโนโลยีที่ทันสมัยหรือไม่? (เช่น Cloud-native) รองรับอุปกรณ์ฮาร์ดแวร์ที่คุณต้องการหรือไม่?
  • บริการครบวงจร (Full-Service Offering) ผู้ให้บริการสามารถดูแลได้ทั้งซอฟต์แวร์และฮาร์ดแวร์หรือไม่?
  • CNET Thailand คือคำตอบ เราให้บริการ ระบบ WMS แบบครบวงจร ตั้งแต่การให้คำปรึกษา ออกแบบระบบ จัดหาซอฟต์แวร์และฮาร์ดแวร์ที่เหมาะสม ติดตั้ง ฝึกอบรม ไปจนถึงการดูแลหลังการขาย ทำให้คุณมั่นใจได้ว่าจะได้รับโซลูชันที่สมบูรณ์แบบและใช้งานได้อย่างราบรื่น

เตรียมงบประมาณสำหรับ “ระบบ WMS” อย่างไรให้พร้อมและคุ้มค่า?

การเตรียมงบประมาณไม่ใช่แค่การดู “ป้ายราคา” แต่คือการวางแผนอย่างรอบคอบเพื่อให้การลงทุนเกิดประโยชน์สูงสุด CNET Thailand ขอแนะนำขั้นตอนดังนี้:

  1. กำหนดเป้าหมายและขอบเขตที่ชัดเจน (Define Clear Objectives & Scope) คุณต้องการแก้ปัญหาอะไรด้วย ระบบ WMS? (เช่น ลดข้อผิดพลาด 50%, เพิ่มความเร็วในการหยิบ 30%) ต้องการฟังก์ชันอะไรบ้าง? อะไรคือสิ่งที่ “ต้องมี” (Must-Have) และอะไรคือ “มีก็ดี” (Nice-to-Have)? การมีเป้าหมายที่ชัดเจนจะช่วยให้เลือกระบบจัดการคลังสินค้า WMS ที่เหมาะสมและควบคุมงบประมาณได้
  2. ประเมินกระบวนการทำงานปัจจุบัน (Assess Current Processes) ทำความเข้าใจขั้นตอนการทำงานในคลังสินค้าปัจจุบัน จุดอ่อนอยู่ตรงไหน? มีคอขวดหรือไม่? การประเมินนี้จะช่วยระบุว่า ระบบ WMS จะเข้ามาช่วยปรับปรุงส่วนใดได้บ้าง
  3. คำนวณผลตอบแทนจากการลงทุน (Calculate Potential ROI) ลองประมาณการว่าระบบ WMS จะช่วยประหยัดต้นทุนได้อย่างไรบ้าง เช่น ลดค่าแรงจาก OT, ลดความผิดพลาดในการจัดส่ง, ลดพื้นที่จัดเก็บที่ไม่จำเป็น การเห็นตัวเลข ROI ที่ชัดเจนจะช่วยให้ตัดสินใจลงทุนได้ง่ายขึ้นและเห็นความคุ้มค่าระยะยาว
  4. พิจารณาต้นทุนรวมในการเป็นเจ้าของ (Total Cost of Ownership – TCO) อย่ามองแค่ราคาซอฟต์แวร์เริ่มต้น แต่ให้รวมค่าใช้จ่ายอื่นๆ ทั้งหมดตลอดอายุการใช้งานที่คาดหวัง เช่น ค่าฮาร์ดแวร์, ค่าติดตั้ง, ค่าฝึกอบรม, ค่าบำรุงรักษารายปี, ค่าอัปเกรดที่อาจเกิดขึ้น
  5. ขอใบเสนอราคาจากผู้ให้บริการหลายราย (Get Multiple Quotes) ติดต่อผู้ให้บริการระบบคลังสินค้าอัจฉริยะ WMS ที่น่าเชื่อถือ (อย่าง CNET Thailand!) เพื่อขอใบเสนอราคาและทำความเข้าใจข้อเสนอของแต่ละราย เปรียบเทียบฟังก์ชัน บริการ และราคาอย่างละเอียด
  6. อย่าเลือกที่ราคาถูกที่สุดเพียงอย่างเดียว (Don’t Just Choose the Cheapest) ระบบ WMS ราคาถูกอาจมีฟังก์ชันจำกัด ไม่ยืดหยุ่น หรือมีค่าใช้จ่ายแฝงในภายหลัง ให้เน้นที่ “ความคุ้มค่า” ซึ่งหมายถึงระบบที่ตอบโจทย์ความต้องการทางธุรกิจได้จริง มีความน่าเชื่อถือ และมีการสนับสนุนที่ดี ในราคาที่สมเหตุสมผล
  7. เตรียมงบประมาณสำรอง (Factor in Contingency): ควรมีงบประมาณสำรองเผื่อไว้ประมาณ 10-20% สำหรับค่าใช้จ่ายที่ไม่คาดคิดที่อาจเกิดขึ้นระหว่างการติดตั้งหรือปรับแต่งระบบ WMS

เปรียบเทียบคุณสมบัติและราคาของระบบ WMS ในตลาด

ในตลาดประเทศไทย มีผู้ให้บริการโปรแกรมระบบคลังสินค้า WMS มากมาย แต่ละรายมีคุณสมบัติและราคาที่แตกต่างกัน  ราคาจะแตกต่างกันไปขึ้นอยู่กับผู้ให้บริการและแพ็กเกจที่คุณเลือก  ตัวอย่างเช่น Packhai มีแพ็กเกจเริ่มต้นที่ 999 บาทต่อเดือน ในขณะที่ Inventive มีราคาสำหรับ Standard และ Professional Edition อยู่ระหว่าง 250,000 ถึง 850,000 บาท สำหรับค่าติดตั้งซอฟต์แวร์  ระบบขนาดใหญ่อย่าง Manhattan, BlueYonder และ SAP eWMS มักมีราคาสูงกว่าและเหมาะสำหรับองค์กรขนาดใหญ่ Cnetthailand เองก็มีระบบ “Ci.Himalayas/Base” ที่เป็นตัวเลือกที่คุ้มค่าสำหรับธุรกิจ SMEs

คุณสมบัติของระบบ WMS ก็มีความหลากหลายเช่นกัน บางระบบเน้นฟังก์ชันพื้นฐาน ในขณะที่บางระบบคลังสินค้า WMS มีฟังก์ชันขั้นสูงที่ครอบคลุมถึงการจัดการ Supply Chain ทั้งหมด การเปรียบเทียบคุณสมบัติและราคาอย่างละเอียดจะช่วยให้คุณเลือกระบบที่ตรงกับความต้องการและงบประมาณของคุณได้มากที่สุด

ระบบ WMS พลิกโฉมธุรกิจ E-commerce ได้อย่างไร?

การดูตัวอย่างความสำเร็จของธุรกิจอื่นๆ ที่นำ ระบบ WMS มาใช้ จะช่วยให้คุณเห็นภาพและเข้าใจถึงประโยชน์ที่แท้จริงของระบบได้ชัดเจนยิ่งขึ้น ตัวอย่างเช่น ธุรกิจ E-commerce ขายเสื้อผ้าแฟชั่นแห่งหนึ่งประสบปัญหาออเดอร์ล้นและสินค้าผิดพลาดบ่อยครั้ง หลังนำ ระบบจัดการคลังสินค้า WMS มาใช้ สามารถจัดการออเดอร์ได้เร็วขึ้น 50% และลดความผิดพลาดในการหยิบสินค้าลงได้ถึง 90%  หรือธุรกิจขายสินค้าอิเล็กทรอนิกส์ที่ต้องการความแม่นยำสูงในการจัดเก็บและจัดส่ง หลังใช้ ระบบ WMS ก็สามารถลดความเสียหายของสินค้าและเพิ่มความมั่นใจให้กับลูกค้าได้

ทำไมต้องเลือก CNET Thailand เป็นพาร์ทเนอร์ด้านระบบ WMS ของคุณ?

การเลือกลงทุนในระบบ WMS เป็นการตัดสินใจครั้งสำคัญ การมีพาร์ทเนอร์ที่ใช่จะช่วยให้การเปลี่ยนผ่านเป็นไปอย่างราบรื่นและประสบความสำเร็จ CNET Thailand ไม่ได้เป็นเพียงผู้ขายซอฟต์แวร์ แต่เราคือ “พาร์ทเนอร์” ที่จะทำงานร่วมกับคุณ:

  • ประสบการณ์ที่ไม่มีใครเทียบ กว่า 3 ทศวรรษในวงการระบบ WMS
  • ความสำเร็จที่พิสูจน์แล้ว ยอดขายอันดับ 1 ในญี่ปุ่น 11 ปีซ้อน การันตีคุณภาพและความไว้วางใจ
  • บริการครบวงจร โซลูชันเดียวจบ ทั้งระบบ WMS และอุปกรณ์ที่เกี่ยวข้อง
  • ความเชี่ยวชาญเฉพาะทาง ทีมงานผู้เชี่ยวชาญที่พร้อมให้คำปรึกษาและออกแบบระบบให้เหมาะกับธุรกิจของคุณโดยเฉพาะ
  • การสนับสนุนที่เป็นเลิศ บริการหลังการขายที่รวดเร็วและเชื่อถือได้

เราเข้าใจดีว่าการลงทุนในระบบ WMS ต้องพิจารณาเรื่องงบประมาณอย่างรอบคอบ CNET Thailand พร้อมช่วยคุณออกแบบโซลูชันที่ “คุ้มค่าที่สุด” ไม่ใช่แค่ “ถูกที่สุด” เราจะทำงานร่วมกับคุณเพื่อทำความเข้าใจความต้องการ งบประมาณ และเป้าหมายทางธุรกิจ เพื่อนำเสนอ ระบบ WMS ที่ตอบโจทย์และสร้างผลตอบแทนสูงสุดให้กับการลงทุนของคุณ

ลงทุนระบบ WMS อย่างชาญฉลาด เพื่ออนาคตคลังสินค้าของคุณ

ราคาของระบบคลังสินค้ามออนไลน์ WMS ไม่ได้มีตัวเลขตายตัว แต่ขึ้นอยู่กับปัจจัยหลากหลาย การเตรียมงบประมาณอย่างมีกลยุทธ์ โดยพิจารณาทั้งต้นทุนเริ่มแรกและต้นทุนรวม (TCO) พร้อมคำนวณ ROI จะช่วยให้คุณเห็นภาพความคุ้มค่าที่ชัดเจน

สิ่งสำคัญที่สุดคือการเลือกระบบ WMS ที่ไม่ใช่แค่ราคาถูก แต่ต้องตอบโจทย์ธุรกิจของคุณได้จริง มีความยืดหยุ่น รองรับการเติบโต และมาจากผู้ให้บริการที่น่าเชื่อถือ มีประสบการณ์ และพร้อมเป็นพาร์ทเนอร์ระยะยาว

หากคุณกำลังมองหาระบบ WMS ที่จะมายกระดับการจัดการคลังสินค้าของคุณ และต้องการคำปรึกษาเกี่ยวกับงบประมาณและการเลือกโซลูชันที่เหมาะสมที่สุด CNET Thailand พร้อมให้คำแนะนำและนำเสนอทางเลือกที่คุ้มค่าที่สุดสำหรับธุรกิจของคุณ ติดต่อเราวันนี้ เพื่อเริ่มต้นการปฏิวัติคลังสินค้าของคุณ!

ท่านใดที่กำลังมองหาระบบ WMS ที่ Cnetthailand เราเป็นบริษัทที่ให้บริการระบบจัดการคลังสินค้า WMS เต็มรูปแบบพร้อมอุปกรณ์ที่ทันสมัย โดยระบบคลังสินค้าอัจฉริยะ WMS ของเราสามารถปรับแต่งให้เหมาะสมกับอุตสาหกรรมและธุรกิจแต่ละประเภท ด้วยประสบการณ์ด้านระบบ WMS กว่า 30 ปี และมียอดขายระบบคลังสินค้า WMS เป็นอันดับ 1 ในประเทศญี่ปุ่นต่อเนื่องกันถึง 11 ปี ให้เรา Cnetthailand ช่วยดูแลระบบคลังสินค้าของคุณนะคะ

สนใจติดต่อ

Tel : 02-821-5464

Line : @cnetthailand

Facebook : c net thailand co ltd