c-net-logo-blue

เทคโนโลยี IoT ใช้ทำอะไรในระบบ WMS?

เทคโนโลยี IoT ใช้ทำอะไรในระบบ WMS

ในการทำธุรกิจระบบ WMS เป็นเทคโนโลยีที่มีความสำคัญในการจัดการคลังสินค้า ซึ่งการนำระบบ WMS มาใช้งานช่วยให้ธุรกิจเติบโตและตอบสนองความต้องการของลูกค้าได้ดีก็จริง แต่การนำระบบ IoT (Internet of Things) มาใช้งานในระบบ WMS จะช่วยให้การบริหารจัดการคลังสินค้าและการควบคุมความสัมพันธ์ของระบบโลจิสติกส์มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น แล้วเทคโนโลยี IoT สามารถใช้งานร่วมกับระบบ WMS ได้อย่างไรบ้าง มาดูกันค่ะ

เทคโนโลยี IoT กับระบบ WMS ยกระดับการจัดการคลังสินค้าอัจฉริยะ

ระบบ IoT (Internet of Things) คือ เครือข่ายอุปกรณ์ที่เชื่อมต่ออินเทอร์เน็ต สามารถส่งและรับข้อมูลแบบเรียลไทม์ เทคโนโลยีนี้ถูกนำมาประยุกต์ใช้กับระบบ WMS (Warehouse Management System) เพื่อยกระดับการจัดการคลังสินค้าให้มีประสิทธิภาพ แม่นยำ รวดเร็ว และลดต้นทุน

8 เหตุผลที่ธุรกิจควรใช้งานระบบ WMS และ Inventory

การทำงานของ IoT กับระบบ WMS

  1. ติดตามสถานะสินค้าแบบเรียลไทม์

การติดตั้งเซ็นเซอร์อัจฉริยะในคลังสินค้าเพื่อตรวจจับสถานะของสินค้าและอุปกรณ์ต่างๆ ได้แก่ เช่น เซ็นเซอร์อุณหภูมิและความชื้น เซ็นเซอร์ RFID (Radio Frequency Identification) หรือ Barcode ติดตามการเคลื่อนไหวของสินค้าในเวลาจริง เพื่อให้ระบบคลังสินค้าอัจฉริยะ WMS สามารถติดตามและระบุสินค้าในคลังสินค้าโดยอัตโนมัติ ทำให้เกิดการจัดเก็บสินค้าที่มีความแม่นยำและเร็วขึ้น นอกจากนี้ระบบ WMS ยังสามารถใช้งานร่วมกับเทคโนโลยี BLE (Bluetooth Low Energy) กับอุปกรณ์พกพาเพื่อติดตามสินค้าในคลังสินค้า และใช้ระบบ AI วิเคราะห์ภาพจากกล้องวงจรปิดเพื่อติดตามการเคลื่อนที่ของสินค้า

  1. จัดส่งและควบคุมคลังสินค้า

ระบบ IoT สามารถช่วยในการควบคุมการจัดส่งสินค้า และการจัดการคลังสินค้าให้เป็นไปอย่างต่อเนื่องและรวดเร็ว โดยระบบสามารถระบุสินค้าที่จะจัดส่งให้กับพนักงาน นอกจากนี้ยังสามารถใช้ IoT เพื่อควบคุมอุปกรณ์เคลื่อนที่ในคลังสินค้า เช่น โรบอท (Robotics) หรือ AGV (Automated Guided Vehicle) เพื่อช่วยในการจัดสินค้าและการจัดส่ง

  1. อุปกรณ์เชื่อมต่อ

การใช้ระบบ IoT อุปกรณ์เชื่อมต่อในการเก็บข้อมูลและสื่อสารกับระบบคลังสินค้าออนไลน์ WMS เพื่อรายงานสถานะของคลังสินค้า และการแจ้งเตือนเมื่อมีปัญหาหรือการเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้น เช่น เครื่องยนต์ไฟฟ้าที่เชื่อมต่อกับระบบ WMS เพื่อรายงานสถานะการชาร์จแบตเตอรี่หรือการดำเนินการบางอย่างที่มีความสำคัญในการดำเนินงานของคลังสินค้า

  1. การจัดการสั่งซื้อและการจัดส่ง

การใช้เทคโนโลยี IoT ในระบบ WMS ช่วยให้สามารถติดตามและควบคุมกระบวนการสั่งซื้อสินค้าและการจัดส่งได้อย่างมีประสิทธิภาพ ระบบ IoT สามารถตรวจจับสภาพของรถยนต์และการเดินทางในเวลาจริง เช่น การตรวจวัดและรายงานการเดินทาง การระบุตำแหน่งและการนำทางในเวลาจริง เพื่อให้การจัดส่งมีประสิทธิภาพมากขึ้น

  1. การบริหารจัดการสต็อก

ระบบ IoT สามารถช่วยในการติดตามการใช้งานและระดับสต็อกของสินค้าในคลังสินค้าได้ เช่น การใช้เซ็นเซอร์อัจฉริยะในการตรวจจับระดับสต็อก การแจ้งเตือนเมื่อสินค้าใกล้หมด หรือการจัดทำรายงานการจัดเก็บสินค้าอัตโนมัติ

8 เหตุผลที่ธุรกิจควรใช้งานระบบ WMS และ Inventory
  1. การประสานงาน

การนำเทคโนโลยี IoT เข้ามาในระบบจัดการคลังสินค้า WMS ช่วยให้สามารถปรับปรุงกระบวนการในคลังสินค้าได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยการทำงานร่วมกับระบบอื่น ๆ เช่น การบริหารจัดการโดยใช้ระบบคลังสินค้าอัตโนมัติ (AS/RS) หรือระบบโดรนในคลังสินค้า เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการเคลื่อนย้ายสินค้าและกระบวนการในคลังสินค้า

  1. การคาดการณ์และการวิเคราะห์

การใช้ข้อมูลที่ได้รับจากอุปกรณ์ IoT ในระบบคลังสินค้า WMS สามารถนำมาวิเคราะห์และคาดการณ์การเคลื่อนไหวของสินค้าคงคลังในอนาคต ซึ่งสามารถช่วยในการวางแผนและตัดสินใจในการจัดการคลังสินค้าได้อย่างมีประสิทธิภาพ

การใช้เทคโนโลยี IoT ในระบบ WMS ช่วยให้การบริหารจัดการคลังสินค้าเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ ลดการสูญเสียและความผิดพลาดในการดำเนินงาน และเพิ่มความสามารถในการตอบสนองต่อความต้องการของลูกค้าได้อย่างรวดเร็วและแม่นยำขึ้นด้วยการจัดการสินค้าที่เป็นประสิทธิภาพสูง

ท่านใดที่กำลังมองหาระบบ WMS ที่ Cnetthailand เราเป็นบริษัทที่ให้บริการระบบจัดการคลังสินค้า WMS เต็มรูปแบบพร้อมอุปกรณ์ที่ทันสมัย โดยระบบคลังสินค้าอัจฉริยะ WMS ของเราสามารถปรับแต่งให้เหมาะสมกับอุตสาหกรรมและธุรกิจแต่ละประเภท ด้วยประสบการณ์ด้านระบบ WMS กว่า 30 ปี และมียอดขายระบบคลังสินค้า WMS เป็นอันดับ 1 ในประเทศญี่ปุ่นต่อเนื่องกันถึง 11 ปี ให้เรา Cnetthailand ช่วยดูแลระบบคลังสินค้าของคุณนะคะ

สนใจติดต่อ

Tel : 02-821-5464

Line : @cnetthailand

Facebook : c net thailand co ltd